5/26/2013

ประวัติ รถปอร์เช่ 356

ประวัติ รถปอร์เช่ 356




           แหล่งกำเนิด PORSCHE 356 แรกเกิดในออสเตรีย โดยลูกชายของ Ferdinand Porsche ได้นำเอารถต้นแบบที่เรียกว่า 356/1 เขาได้ลงมือออกแบบและสร้างด้วยตนเองมาให้พ่อ (Ferdinand Porsche )ของเขาดู มันคือรถสปอร์ตขนาดเล็ก แบบสองที่นั่ง ที่เอาเครื่องยนต์มาจากรถ Volkswagen ที่พ่อเคยสร้างโดยทำการปรับแต่งเครื่องยนต์บางชิ้นส่วนและเพิ่มเติมส่วนบางส่วนที่จะทำให้มี สมรรถนะ ดีขึ้น ช่วงล่างและระบบห้ามล้อก็นำมาจากรถเต่ารวมถึงแซสซีส์ด้วยเช่นกัน ทำให้มันมีฐานล้อสั้นลงประมาณ 1 ฟุต ชื่อรหัสตัวรถ 356/1 คือการเชื่อมโยงรถสปอร์ตรุ่น 355 ที่พัฒนาขึ้นโดย Ferry Porsche ลูกชายคนเก่ง ที่ได้รับอิทธิพลทางแนวความคิด ในการสร้างรถสปอร์ตจาก Ferdinand Porsche   


          หลังจากนั้น Ferdinand Porsche ได้ทำการปรับปรุงพัฒนาตัวรถจนออกมาเป็นรถต้นแบบอีกคันโดยใช้ชื่อเป็นรหัส ตัวเลขว่า 356/2 ซึ่งต่อมาคนทั่วไปรู้จักกันในชื่อ Gmund Coupe มันคือต้นแบบของรถสปอร์ตสองประตูสี่ที่นั่ง ฐานล้อถูกร่นให้สั้นอีกสองนิ้ว ตัวถังภายนอกถูกออกแบบโดยการคำนึงถึงระบบอากาศพลศาสตร์ ส่งผลให้มันมีความล้ำสมัยเกินหน้าเกินตารถยนต์ในยุคนั้น และกลายเป็นต้นแบบของโมเดล 911 การออกแบบเน้นรูปลักษณ์ที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีความปราดเปรียว กับงานวิศวกรรมจักรกลระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ Ferdinand Porsche ได้ปรับเปลี่ยนธุรกิจจากบริษัทที่ปรึกษาทางวิศวกรรมยานยนต์ มาเป็นบริษัทผลิตรถยนต์อย่างเต็มรูปแบบ รถ Porsche รุ่น 356 ซึ่งเปรียบเหมือนบรรพบุรุษของ 911 เริ่มต้นสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำทั้งบนถนนปกติและในสนามแข่งขัน เหตุผลของการวางเครื่องยนต์ไว้ที่ด้านหลังของ Porsche 356
          รถ Porsche 356 ในยุคแรกไม่ค่อยมีกำลังมากนักและควบคุมได้ยาก แต่ Ferdinand Porsche อยากให้รถสปอร์ตของ Porsche มีเครื่องยนต์อยู่ที่ด้านหลังเท่านั้น เครื่องยนต์สูบนอน จ่ายเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์ของ Solex ส่วนถังน้ำมันถูกย้ายไปไว้ด้านหน้าระหว่างแนวของล้อหน้า กับอัตราส่วนกระจายน้ำหนักที่ 35:65 รถ Porsche 356 ถูกออกแบบภายในปี ค.ศ. 1949 โดย Ferry Porsche ก่อนที่ Ferdinand Porsche เขาจะเสียชีวิตลง
          ในปัจจุบัน  Porsche 356 ยังได้รับการปลุกชีพ จากช่างคนไทยเรา ซื่งสามารถทำให้รถที่หายไปเป็นประวัติศาสาตร์ กลับมาให้คนรุ่นหลังๆได้ศึกษา ชื่นชม ตามลิงค์นี้ครับ


ที่มา  

http://www.thairath.co.th     
http://www.thaiscooter.com 


No comments:

Post a Comment