6/13/2013

การโหลดเตี้ย

การโหลดเตี้ย


          การโหลดเตี้ย หลายๆคนยังเข้าใจผิดอยู่ว่า เมื่อโหลดเตี้ยแล้วรถจะเกาะถนนมากขึ้น เข้าโค้งนิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด มันเกาะถนนกว่าเดิมเล็กน้อย เพราะเมื่อรถเตี้ยลง จุดศูนย์ถ่วงของรถก็ต่ำลงซึ่งส่งผลให้รถเกาะถนนมากขึ้นเองไม่ได้เกี่ยวกับสปริงเลย สปริงมี หน้าที่ซับแรงกระแทกเท่านั้นค่า k ที่แข็งขึ้นกว่าสปริงมาตรฐานก็จะส่งผลให้รถกระด้างและเด้งขึ้นแน่นอน สปริงโหลด เมื่อมันแข็งขึ้นด้วยแรงกดเท่าเดิมมันยุบตัวน้อยลงและดีดตัวกลับเร็วกว่าเดิม นั่นคือเหตุผลที่มันเด้งขึ้น ซึ่งโดยปกติการโหลดที่ดีที่สุดควรทำโดยการเปลี่ยนสปิงใหม่เนื่องจาก สปิงออกแบบมาโดยตรงสำหรับรถรุ่นนั้น และจะดีที่สุดเพราะไม่มีปัญหาต่อเนื่องตามมาในภายหลัง แต่ปัจจุบันนี้ลูกค้าบางท่านต้องการโหลดแบบประหยัด ซึ่งแน่นอนการโหลดเช่นนี้จะทำโดยการตัดสปิง เพื่อให้รถเตี้ยลง จะเอาเตี้ยเท่าไรก็ตัดเพิ่มตามไปตามนั้น และที่ร้านทั่วไปหลังจากตัดสปิงแล้ว ปลายสปิงรถส่วนใหญ่จะเป็นแบบก้นหอย คือ ใหญ่ไปหาเล็กคุณจะเจอปัญหาตัดสปิงแล้ว ปลายสปิงไม่ลงบ่าเบ้าโช๊คจะมีปัญหาสปิงลั่นมีเสียงดัง หรือรถกระโดดจั๊ม หรือขึ้นแม่แรงสปิงอาจหลุดจากเบ้าโช๊คได้ครับ กรณีเช่นนี้มากมาย

          ดังนั้นวิธีการโหลดเตี้ยที่ถูกต้อง คุณต้องดัดปลายสปิงให้ลงในบ่าเบ้าโช๊คอัพ อย่างนี้จึงจะไม่มีปัญหาดังที่ได้เรียนให้ทราบ แต่การดัดปลายสปิง จะทำได้โดยวิธีเดียวคือใช้ไฟลนปลายสปิงจึงจะดัดให้ลงบ่าเบ้าโช๊คได้ครับ ไม่สามารถทำได้โดยวิธีอื่นได้ ถามต่อว่าทำแบบนี้มีปัญหาหรือไม่ คำตอบคือมีครับ แต่ไม่มากนักเพราะเราลนไฟเฉพาะปลายสปิงเท่านั้น ไม่ใช่ไปลนตรงกลางสปิง ซึ่งถ้าไปลนตรงกลางสปิง จะทำให้สปิงหักได้ครับ ( ซึ่งถ้าคุณไม่ต้องการให้ทางร้านใช้ไฟลน ทางร้านก็ยินดีมากเพราะไม่ต้องเสียค่าแก๊สไฟรวมทั้งเวลาและถูกด่าในภายหลัง ทั้งๆที่ต้องการให้รถลูกค้าออกมาดีที่สุด เข้าทำนองว่าทำงานเพิ่มขึ้น แต่ถูกว่าอย่างนี้ก็คงไม่อยากไปทำเพิ่มใช่ไหมครับ ) แต่วิธีโหลดดังกล่าว เป็นการโหลดแบบประหยัดไม่มีสอนในตำราเรียน แต่ที่ยังโหลดโดยการตัดสปิงก็เพราะราคาถูกมาก 4 ข้างแค่ 1,000 - 1,500 บาทเท่านั้น เฉพาะค่าแรงถอดใส่ก็ 800 - 1,200 บาทแล้ว ดังนั้น ถ้าท่านต้องการโหลดแบบดีที่สุดก็ควรเปลี่ยนสปิงโหลดใหม่ เพราะการโหลดโดยการตัดสปิง ต้องมีปัญหาอยู่แล้ว มันก็สืบเนื่องมาถึงโช้ค เพราะโช็คเดิมที่นิ่มนวลกับสปริงที่แข็งขึ้น การยืดตัวของโช้คหรือ rebound/rebump ด้วยความหนืดเท่าเดิมแต่ระยะยืดและยุบตัวของโช้ค (สโตรก) สั้นลง มันย่อมเกิดอาการเด้งอย่างช่วยไม่ได้ แต่โช้คที่มีความหนืดมากกว่าเดิมหรือโช้คซิ่ง จะเป็นแบบปรับความหนืดได้หรือไม่ได้ก็ตาม ค่าความหนืดที่เซ็ทมามันหนืดหรือแข็งกว่าเดิม เวลายุบตัวเร็ว แต่เวลายืดตัวช้า เพื่อให้รถไม่เด้งดึ๋งขึ้ลงอย่างรวดเร็วเหมือนโช้คสแตนดาร์ด ดังนั้นเมื่อเวลาคุณเข้าโค้ง รถจะยุบตัวลงไปข้างหนึ่ง ถ้าเป็นโช้คสแตนดาร์ดก็จะยืดตัวเร็วเท่าเดิมส่งผลให้ตัวรถมีอาการย้วย แต่ถ้าโช้คซิ่งโช้คยืดตัวช้าลักษณะคล้ายกับ คุณขับรถทางตรงอาการรถจึงนิ่งขึ้น แต่ข้อเสียของมันคือมันจะตอบสนองไวต่อความไม่เรียบของพื้นผิวถนนทุกอย่าง ส่งผลให้เกิดความกระด้างไม่นิ่มนวลเหมือนโช้คสแตนดาร์ด ซึ่งถ้าเป็นโช้คซิ่งที่ออกแบบมาให้ใช้งานบนถนนก็ไม่ถึงกับรับไม่ได้ แต่ยังไงมันก็จะกระด้างกว่าเดิมแน่นอน ถ้ารับตรงนี้ไม่ได้ไม่แนะนำให้เปลี่ยน และอีกอย่างหนึ่งก็คือโช้คซิ่งส่วนมากแกนโช้คจะสั้นกว่าสแตนดาร์ด จึงไม่มีปัญหาในเรื่องแกนโช้คยันเท่าไหร่ ถามว่าสปริงโหลดใช้กับโช้คเดิมจะเป็นไรไหมคำตอบคือ "เป็น" แต่จะเป็นเมื่อไหร่ จะช้าหรือเร็ว อยู่ที่การขับขี่ของคุณเอง ถ้าคุณเป็นพวกไม่ชอบเบรก ไม่วาหลุม เนิน คอสะพานต่างๆ ไม่นานโช้คคุณจะแตกแน่ๆส่วนพวกค้ำต่างๆ สารพัดค้ำมันช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวรถ ช่วยในเรื่องการถ่ายภาระน้ำหนัก ช่วยในเรื่องความแข็งของรถ(คนละอย่างกับความแข็งแรง) ซึ่งต้องประกอบด้วยปัจจับอื่นหลายอย่าง

          ทั้งระบบช่วงล่างรถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อที่ไม่เหมือนกัน ถ้าบอกว่าใส่ค้ำต่างๆเหล่านี้ แล้วใช้งานกับโช้คเดิม มันเกาะถนนมากขึ้น เข้าโค้งกันหนึบหนับ คุณกำลังคิดผิดถนัด อยากให้ลองทำความเข้าใจเสียใหม่ อุปกรณ์ค้ำเหล่านี้มันช่วยให้ตัวถังแข็งแรง บิดตัวน้อยลงเมื่อรถเลี้ยว หรืออยู่ในสถานะที่จะเกิดการบิดตัว บางอย่างช่วยถ่ายภาระน้ำหนักของช่วงล่าง อย่างเช่นค้ำปีกนกล่างของ civic 3d ที่เป็นช่วงล่างแบบ double wishbone จากที่เคยรับน้ำหนักข้างเดียวก็มีตัวค้ำมาช่วยถ่ายน้ำหนัก และช่วยเพิ่มความแข็ง หมายถึงตัวรถแข็งขึ้นการตอบสนองอาการของรถต่างๆก็จะเร็วขึ้น คือรถไม่มีการบิดตัวหรือให้ตัวได้จนตอบสนองช้า ซึ่งจุดนี้เป็นพื้นฐานของพวกนักดริฟท์ที่รู้กันดี คือถ้าต้องการให้รถตอบสนองไวขึ้น ท้ายกวาดไวขึ้น ก็เสริมให้รถแข็งขึ้น ดังนั้นเมื่อคุณใส่ช่วงล่างซิ่งหรือโช้คซิ่งเข้าไป ประกอบกับเหล็กค้ำต่างๆเหล่านี้ การเข้าโค้งและการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ ตัวรถจะแสดงอาการตอบสนองออกมาอย่างรวดเร็ว คุณจึงรู้สึกได้ว่ามันขับขี่มั่นใจขึ้น หักเลี้ยวเป็นเลี้ยวในชั่วพริบตา แต่กทุกอย่างต้องทำงานประสานกันและนำมาใช้งานร่วมกัน ส่วนสำคัญในการควบคุมรถอยู่ที่โช้คอัพและสปริง ดังนั้นถ้าจะเสริมสมรรถนะช่วงล่าง โช้คและสปริงคือสิ่งที่คุณควรจะเริ่มต้น ต่อจากนั้นก็เป็นปัจจัยร่วมอื่นๆมากมาย ไม่ว่าจะเหล็กค้ำ แม็ก ยาง การตั้งศูนย์ล้อ ต้องทำความเข้าใจใหม่ สำหรับคนที่ยังคิดว่าเปลี่ยนเหล็กค้ำมาแล้วเกาะถนนมากขึ้น ลองวิธีง่ายๆก็ได้ การเสริมความแข็งแรงตัวถัง คุณจำเป็นต้องใช้ยางประเภท high grip คือยางที่มีการเกาะถนนค่อนข้างสูง เพราะเมื่อรถแสดงอาการออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ยางคุณไม่เกาะมันก็หลุดเลยโดยไม่มีโอกาสแก้อาการครับ และสุดท้ายฝากถึงคนที่คิดโหลดเตี้ย จะรับตรงจุดนี้ได้ไหมแนะนำให้ขับเดิมๆดีที่สุดครับ ส่วนใครที่ถามว่ามันเปลี่ยนไปมากหรือน้อยล่ะ อันนี้มันก็อยู่ที่ความคิดแต่ละคน มาก ของบางคนมันอาจเป็นแค่ เล็กน้อย ของอีกคนครับ


No comments:

Post a Comment